การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) เช่น ซิฟิลิส, หนองใน, หนองในเทียม, และคลามัยเดีย ล่าสุดมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis (Doxy PEP) ซึ่งหมายถึงการใช้ยาปฏิชีวนะ ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) หลังมีความเสี่ยงทางเพศ เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อบางชนิด
Doxy PEP จึงกำลังเป็นที่จับตามองทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และผู้ใช้ PrEP สำหรับป้องกันเอชไอวี
Doxy PEP คืออะไร?
Doxy PEP (Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis) คือ แนวทางป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ ด็อกซีไซคลิน (doxycycline) ขนาด 200 มก. หลังมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง ภายใน 24 ชั่วโมง (แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง) เพื่อช่วยลดโอกาสติดเชื้อ ซิฟิลิส (Syphilis), คลามัยเดีย (Chlamydia) และในบางการศึกษาช่วยลด หนองใน (Gonorrhea) ได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ยาไม่ป้องกันเอชไอวี (HIV) จึงยังควรใช้ PrEP/PEP สำหรับ HIV และมาตรการอื่นร่วมด้วยเสมอ
หลักฐานจากการทดลองแบบสุ่มขนาดใหญ่ชี้ว่า รับประทาน doxycycline 200 มก. ภายใน 72 ชม. หลังเสี่ยง ช่วยลดซิฟิลิส และคลามัยเดียได้มากกว่า 70% และลดหนองในได้ราว ~50% (ผลต่อหนองในแปรผันตามการดื้อยาในพื้นที่)
ใครที่เหมาะกับการใช้ Doxy PEP?
แนวทางของ CDC (สหรัฐฯ) แนะนำให้ พิจารณาแบบ shared decision-making กับกลุ่มต่อไปนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซ้ำ ๆ ภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา
- ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และ
- สตรีข้ามเพศ (Transgender women: TGW)
- โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา หรือมีความเสี่ยงต่อเนื่อง (เช่น คู่นอนหลายคน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง) ทั้งนี้ยัง ไม่แนะนำใช้เป็นกิจวัตรในกลุ่มอื่น เนื่องจากหลักฐานยังจำกัด และต้องชั่งประโยชน์-ความเสี่ยงเป็นรายบุคคล
WHO อยู่ระหว่าง พัฒนาคำแนะนำสากล สำหรับการใช้ Doxy-PEP (ณ พ.ค. 2025) โดยมุ่งที่ MSM และบุคคลข้ามเพศ ซึ่งสะท้อนว่าหลักฐานกำลังก้าวหน้าแต่ยังต้องติดตามนโยบายประเทศต่าง ๆ เพิ่มเติม
วิธีใช้ Doxy PEP อย่างปลอดภัย
- ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ แม้ doxycycline จะใช้กว้างขวางมานาน แต่การนำมาใช้เป็น PEP ควรอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์ เพื่อประเมิน
- ประวัติแพ้ยา และภาวะห้ามใช้ (ตั้งครรภ์/ให้นมบุตรควรปรึกษาเป็นพิเศษ)
- ยาร่วม/อาหารเสริม ที่อาจลดการดูดซึมหรือทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (เช่น ยาลดกรด/ธาตุเหล็ก/แคลเซียม/แมกนีเซียม ควรเว้นระยะ)
- โรคประจำตัว เช่น โรคตับ/ไต และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อลืมยา
- ขนาด และวิธีการใช้ โดสมาตรฐาน: doxycycline 200 มก. รับประทานครั้งเดียว หลังมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ภายใน 24 ชม. และ ไม่เกิน 72 ชม.
- อย่ากินเกิน 200 มก./24 ชม. (แม้มีเพศสัมพันธ์หลายครั้งในวันเดียวกัน ก็ไม่ควรเกินขนาดรวมนี้)
- วิธีรับประทาน: ดื่มน้ำเต็มแก้ว และ นั่ง/ยืนอย่างน้อย 30 นาทีหลังกลืนยา ลดการระคายเคืองหลอดอาหาร; หลีกเลี่ยงการนอนราบทันที
- ข้อควรเว้น: หลีกเลี่ยง ยาลดกรด/ธาตุเหล็ก/แคลเซียม/แมกนีเซียม/นม ใกล้เวลาใช้ยา (ยับยั้งการดูดซึม)
- ไม่ควรใช้เกินความจำเป็น
- Doxy-PEP ไม่ใช่ยาที่ควรใช้ทุกครั้งแบบอัตโนมัติ หากความเสี่ยงไม่ได้สูงหรือซ้ำ ๆ ควรเน้นมาตรการพื้นฐาน (ถุงยาง/PrEP)
- ทีมดูแลควรประเมิน ความจำเป็นซ้ำทุก 3–6 เดือน ควบคู่การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ข้อดีของ Doxy PEP
- ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำคัญอย่างมีนัยสำคัญ: ข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มใน MSM/TGW แสดงว่า Syphilis/Chlamydia ลดลง >70%, และ Gonorrhea ลดลงราว 50% เมื่อรับประทานภายใน 72 ชม.หลังเสี่ยง
- ใช้งานตามเหตุการณ์ (event-driven): เหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นครั้งคราว/เป็นช่วง ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต่อเนื่องรายวัน
- เสริมแผนป้องกันเดิม: ใช้ร่วมกับ ถุงยาง และ PrEP/PEP สำหรับ HIV เพื่อเพิ่มการป้องกันแบบหลายชั้น (combination prevention)

ความเสี่ยง และข้อควรระวังของ Doxy PEP
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง/แสบร้อนท้อง, ระคายเคืองหลอดอาหาร หากนอนราบทันที
- แพ้แดด/ผิวไวต่อแสง (photosensitivity)—ควรทากันแดด และหลีกเลี่ยงแดดจัดหลังใช้ยา.
(อาการส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง และหายได้เอง แต่หากรุนแรง/มีผื่นลมพิษ/หายใจลำบาก ควรพบแพทย์)
ความกังวลเรื่องเชื้อดื้อยา
- การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างกว้างขวางอาจ กดดันให้แบคทีเรียบางชนิดดื้อยาเพิ่มขึ้น ทั้งเชื้อก่อโรค และเชื้ออาศัย (commensals) ในร่างกาย—ประเด็นนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่หน่วยงานสาธารณสุขย้ำให้ใช้ ภายใต้ข้อบ่งชี้ชัดเจน และติดตามผลอย่างใกล้ชิด
ไม่ป้องกันเอชไอวี และโรคอื่น
- Doxy-PEP ไม่ป้องกัน HIV และไม่ครอบคลุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งหมด (ผลต่อหนองในขึ้นกับการดื้อยาในพื้นที่) จึงต้อง ใช้ถุงยางสม่ำเสมอ และพิจารณา PrEP/PEP สำหรับ HIV ร่วมด้วย
การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบบครอบคลุมควรมีอะไรบ้าง?
- ถุงยางอนามัย + เจลหล่อลื่นทุกครั้ง → ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
- PrEP/PEP สำหรับ HIV ตามความเสี่ยง และความพร้อมในการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพทางเพศสม่ำเสมอ (ทุก 3–6 เดือน หรือถี่กว่านั้นหากมีความเสี่ยงสูง) และตรวจทุกตำแหน่งที่มีเพศสัมพันธ์ (อวัยวะเพศ/ทวารหนัก/ลำคอ)
- วัคซีนที่เกี่ยวข้อง: พิจารณา HBV/HPV ตามคำแนะนำ
- ใช้ Doxy-PEP เป็นทางเลือกเสริม สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์ และปรึกษาแพทย์แล้ว—ควบคู่ counseling, การคัดกรอง, และการติดตาม อย่างต่อเนื่อง
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ถุงยางอนามัยแตก = เสี่ยงติดโรค? เสี่ยงท้อง? คำตอบที่ควรรู้
- รู้จัก PrEP และ PEP ให้ลึก ใช้เมื่อไร? ใครควรใช้? ต่างกันตรงไหน?
Doxy PEP ถือเป็น ทางเลือกใหม่ในการลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หากใช้อย่างถูกต้อง ภายใต้การดูแลแพทย์ สามารถช่วยลดการติดเชื้อ ซิฟิลิส หนองใน และคลามัยเดีย ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้แทนการป้องกันหลัก เช่น การใช้ถุงยางอนามัย และ PrEP/PEP สำหรับเอชไอวี
Doxy PEP = เครื่องมือเสริม ไม่ใช่คำตอบเดียว การดูแลสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยที่สุดยังคงต้องอาศัย การป้องกันหลายชั้น (Combination Prevention)
เอกสารอ้างอิง
- World Health Organization (WHO). Sexually transmitted infections (STIs). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก:https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)
- UNAIDS. HIV prevention and combination strategies. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://www.unaids.org
- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และแนวทางการป้องกัน. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). ความรู้ด้านสุขภาพทางเพศและการป้องกันเอชไอวี. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://www.thaihealth.or.th
- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.). สิทธิประโยชน์ด้านการตรวจและการเข้าถึงยาป้องกันเอชไอวี (PrEP/PEP). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก: https://www.nhso.go.th