รู้จัก PrEP และ PEP ให้ลึก ใช้เมื่อไร? ใครควรใช้? ต่างกันตรงไหน?

ในยุคที่ความสัมพันธ์เปิดกว้างและการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้จำกัดแค่คู่รักถาวร การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นชายรักชาย หญิงรักหญิง คู่ต่างเพศ หรือคนที่มีเพศสัมพันธ์ไม่สม่ำเสมอ ปัจจุบันเรามีเครื่องมือในการป้องกันเอชไอวี ที่มีประสิทธิภาพสูงสองรูปแบบคือ PrEP และ PEP

ซึ่งทั้งสองคำอาจฟังคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างด้านเวลา วิธีใช้ และสถานการณ์ที่เหมาะสมอย่างชัดเจน เราจะพาคุณไปรู้จัก PrEP และ PEP อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และมั่นใจ

PrEP คืออะไร?

PrEP ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis คือ การป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี โดยการกินยาต้านไวรัสเป็นประจำทุกวัน หรือใช้ตามแนวทาง on-demand เพื่อให้ยาอยู่ในระดับที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้หากมีความเสี่ยง

  • ตัวยาหลัก TDF/FTC (Tenofovir Disoproxil Fumarate + Emtricitabine)
  • ประสิทธิภาพ
    • หากกินทุกวัน ป้องกันเอชไอวีได้สูงถึง 99%
    • หากใช้แบบ on-demand ป้องกันได้ มากกว่า 90% หากกินถูกวิธี
  • วิธีใช้แบบรายวัน
    • กินทุกวันอย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ในบางวัน
  • วิธีใช้แบบ on-demand (2-1-1)
    • กิน 2 เม็ดก่อนมีเซ็กส์ 2–24 ชั่วโมง
    • กินอีก 1 เม็ดหลังจากนั้น 24 ชม.
    • และอีก 1 เม็ดหลังจากนั้น 48 ชม.
  • ผลข้างเคียง PrEP เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว อ่อนเพลีย (มักเกิดช่วงแรกและดีขึ้น) ในบางรายอาจมีผลต่อตับหรือไต (พบได้น้อย)

ใครควรใช้ PrEP?

  • ชายรักชาย (MSM) ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง
  • คู่รักที่ฝ่ายหนึ่งมีเชื้อ HIV (โดยอีกฝ่ายยังไม่ติด)
  • ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
  • ผู้ที่ทำงานบริการทางเพศ
  • ผู้ที่ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด
  • ผู้ที่เคยมี PEP บ่อยครั้ง

PEP คืออะไร?

PEP ย่อมาจาก Post-Exposure Prophylaxis คือ การกินยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังจากมีความเสี่ยง โดยต้องเริ่มภายใน 72 ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ (เช่น มีเซ็กส์ไม่ป้องกัน ถุงยางแตก ถูกล่วงละเมิด ฯลฯ)

“ChatLove2test"
  • ตัวยาหลัก โดยทั่วไปคือ TDF/FTC + Dolutegravir (หรือยาในกลุ่ม integrase inhibitors)
  • ระยะเวลาการใช้ กินติดต่อกันเป็นเวลา 28 วัน ทุกวันโดยไม่ขาด
  • ประสิทธิภาพ หากเริ่มเร็วภายใน 72 ชั่วโมงและกินยาครบสูตร จะลดโอกาสการติดเชื้อได้ถึง >80–90%
  • ผลข้างเคียง PEP เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้า ต้องเคร่งครัดในการกินทุกวัน เพราะหากพลาด อาจลดประสิทธิภาพ

ใครควรใช้ PEP?

  • หลังจากมีเซ็กส์ไม่ป้องกันหรือถุงยางแตกกับคนที่ไม่ทราบสถานะ
  • หลังถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • หลังถูกเข็มตำจากเลือดที่มีความเสี่ยง (สำหรับบุคลากรทางการแพทย์)
  • คู่รักที่ไม่ได้ใช้ PrEP และเกิดความเสี่ยงฉับพลัน

เปรียบเทียบ PrEP และ PEP: ต่างกันอย่างไร?

ประเด็นPrEPPEP
จุดประสงค์ป้องกันก่อนสัมผัสเชื้อป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ
เวลาเริ่มใช้ก่อนมีเพศสัมพันธ์หลังมีเพศสัมพันธ์ (ภายใน 72 ชม.)
ระยะเวลาการใช้ต่อเนื่อง/ระยะยาว หรือแบบ on-demand28 วันติดต่อกัน
ประสิทธิภาพสูงสุด 99%80–90% หากเริ่มเร็วและกินครบ
เหมาะกับใครคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อเนื่องคนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์เสี่ยงแบบฉับพลัน
ต้องตรวจ HIV ก่อนเริ่ม?ใช่ใช่
ขั้นตอนการเข้าถึง PrEP และ PEP ในไทย

ขั้นตอนการเข้าถึง PrEP และ PEP ในไทย

  • ปรึกษาแพทย์ หรือคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, คลินิกนิรนาม, Love2Test.org
  • ตรวจ HIV และค่าต่าง ๆ ต้องตรวจ HIV ก่อนเริ่ม PrEP หรือ PEP เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่ติดเชื้อ
  • รับคำแนะนำเรื่องวิธีใช้ยา ทั้ง PrEP และ PEP ต้องกินต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดเอง
  • ติดตามผล และตรวจซ้ำ
    • ผู้ใช้ PrEP ควรตรวจ HIV ทุก 3 เดือน และตรวจค่าตับ ไต
    • ผู้ใช้ PEP ต้องมาตรวจซ้ำหลังครบคอร์ส (4–6 สัปดาห์ และ 3 เดือน)

PrEP กับ PEP: อยู่ร่วมกับชีวิตยุคใหม่อย่างมั่นใจ

PrEP และ PEP ไม่ได้เป็นเพียงยาป้องกัน แต่ยังเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในยุคที่เพศสัมพันธ์ไม่ได้อยู่แค่ในกรอบคู่รัก หรือในเพศใดเพศหนึ่ง การป้องกันที่มีประสิทธิภาพคือการแสดงความรักต่อตัวเอง และคนรอบข้าง

“PrEPLove2test"

การเลือกใช้ PrEP หรือ PEP ให้ถูกเวลา ถูกวิธี คือการลงทุนเพื่อสุขภาพทางเพศที่ยั่งยืน

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

  • PrEP ใช้แทนถุงยางได้ 100%?
    • ไม่ใช่  เพราะ PrEP ป้องกันเอชไอวี ได้ดี แต่ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อื่น เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม
  • กิน PEP แล้วไม่ต้องตรวจเอชไอวี?
    • ต้องตรวจเอชไอวี ทั้งก่อน และหลังใช้ PEP เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี
  • กิน PrEP บางวันพอไหม?
    • ต้องกินทุกวัน (หรือใช้สูตร on-demand อย่างถูกต้อง) เพื่อให้ยาอยู่ในระดับป้องกันได้
  • PEP คือ ยารักษาเอชไอวี?
    • ไม่ใช่! PEP คือการป้องกันหลังเสี่ยง หากติดเชื้อแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วย ยาต้านไวรัส ART

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม

PrEP และ PEP คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการควบคุมการระบาดของเอชไอวี โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง หากคุณ หรือคนรอบข้างมีความเสี่ยง ควรพิจารณาเข้าถึงบริการให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรู้จักตัวเลือกของคุณ และใช้มันอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และไม่รู้สึกผิด เพราะสุขภาพทางเพศคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

เอกสารอ้างอิง

  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/hiv/basics/prep.html
  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). PEP (Post-Exposure Prophylaxis). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/hiv/basics/pep.html
  • World Health Organization (WHO). Consolidated guidelines on HIV prevention, testing, treatment, service delivery and monitoring. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/publications/i/item/9789240031593
  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการให้บริการ PrEP และ PEP ในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th
  • UNAIDS. PrEP and PEP: Tools to prevent HIV. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.unaids.org/en/resources/infographics/prep-pep

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save